วันศุกร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2555

ถ้ำน้ำแข็งย้อย



Eisriesenwelt ice caves เที่ยวชมถ้ำสิ่งที่จะคิดถึงในอันดับแรกๆ คงเป็น หินงอก หินย้อย ที่งดงาม แต่ ถ้ำแห่งนี้กับมี น้ำแข็งงอก น้ำแข็งย้อย ที่งดงามทดแทน ซะงั้น

รายละเอียด

  • ถ้ำน้ำแข็ง แห่งนี้มีชื่อว่า Eisriesenwelt ice caves ตั้งอยู่ในภูเขาHochkogel ณ เมืองWerfen ประเทศออสเตรีย(Austria)ห่างจากทางใต้ของ Salzburg ประมาณ 40 กิโลเมตร
  • Eisriesenwelt เป็นภาษาเยอรมัน มีความหมายว่า โลกของน้ำแข็งยักษ์"World of the Ice Giants"
  • Eisriesenwelt เป็น ถ้ำหินปูนน้ำแข็ง (limestone ice cave)
  • ถ้ำน้ำแข็ง แห่งนี้เป็น ถ้ำน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยถ้ำมีความยาวรวมกว่า 42 กิโลเมตร
  • ถ้ำแข็งนี้ในช่วงต้นมีกำเนิดเหมือนถ้ำทั่วไป คือ เกิดรอยร้าวเล็กในหินปูนเมื่อกว่า 100 ล้านปี เมื่อช่วงเวลาที่ ภูเขาเกิดการยกตัว จากรอยร้าวเล็กเมื่อถูกขบวนการกัดกร่อนจากน้ำ ปฏิกริยาทางเคมี ทำให้รอยร้าวขยายเป็นถ้ำขนาดใหญ่
  • สาเหตุที่ทำให้เกิดน้ำแข็งภายในถ้ำ เนื่องจาก ภายในถ้ำอากาศสามารถเคลื่อนย้ายหมุนเวียนได้ จาก ปลายถ้ำด้านล่างมีทางเข้าของอากาศ และปลายถ้ำอีกด้านที่อยู่ในระดับสูงระบายอากาศออก (คล้ายผลจากขบวนการที่เกิด กับ ปล่องไฟ ที่อากาศเย็นไหลเข้าด้านล่าง อากาศร้อนไหลออกที่ปลายปล่องไฟด้านบน) wowboom
  • ในฤดูหนาวเมื่ออากาศด้านนอกเย็นกว่าในถ้ำ อากาศเย็นจะไหลเข้าสู่ในถ้ำทำให้อุณหภูมิในถ้ำลดต่ำลงกว่าจะเยือกแข็ง เมื่อถึงฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนหิมะภายนอกถ้ำจะละลายไหลลงมาตามรอยแยกต่างภายในถ้ำเมื่อพบกับอุณหภูมิที่เย็นภายในถ้ำหยดน้ำเหล่านั้นจะค่อยๆก่อตัวเป็น น้ำแข็งงอก น้ำแข็งย้อยภายในถ้ำอย่างงดงาม
  • มันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม โดย ทุกปีมีนักท่ีองเที่ยวมาเยือนประมาณ 2 แสนคน
  • ในช่วงท้ายของ ศตวรรษที่ 19 มีเพียงเหล่าพรานป่า เท่านั้นที่รู้จักถ้ำแห่งนี้
  • จนกระทั้งในปี 1879 นักธรรมชาิติวิทยา นามว่า Anton Posselt นับว่าเป็นค้นพบถ้ำแห่งนี้อย่างเป็นทางการเมื่อเขาได้ นำผลงานการค้นพบและสำรวจของเขาตีพิมพ์ใน Mountaineering
ข้อมูลนักท่องเที่ยว
  • ถ้ำแห่งนี้เปิดให้เที่ยวชม เฉพาะ วันที่ 1 พฤษภาคม ถึง 26 ตุลาคม ของทุกปีเท่านั้น
  • อุปกรณ์กันหนาว เต็มกำลังแม้ในฤดูร้อน เพราะอุณภูมิภภายในถ้ำจะต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง
  • คุณจะต้องแกร่งพอควรเนื่องจากต้องเิดินไตร่ระดับความสูงถึงไปกว่า 134 เมตร กว่าจะถึงปากทางเข้าถ้ำเพื่อแลกกับ การรับชมความงดงามทางธรรมชาิตินี้

เส้นทางคดเคี้ยวนี้จะนำ ท่าน สู่ ถ้ำน้ำแข็ง Eisriesenwelt
คลังภาพ



ถ้ำหินปูน ที่มีน้ำแข็งงอก น้ำแข็งย้อย ทดแทน หินงอก หินย้อย


น้ำที่ละลายในฤดูร้อน และฤดูใบไม้ผลิ เมื่อไหลลงมาสัมผัสอุณภูมิต่ำภายในถ้ำจะเกิดการแข็งตัว เป็นน้ำแข็ง


พื้นน้ำแข็งที่เกิดจาก บริเวณที่มีน้ำท่วมขัง


ความงดงาม จาก ถ้ำน้ำแข็ง Eisriesenwelt ice caves ประเทศ ออสเตรีย

ข้อมูลอ้างอิง
  • http://www.eisriesenwelt.at/site/content/CB_ContentShow.php?coType=home&lang=EN
  • http://en.wikipedia.org/wiki/Eisriesenwelt
  • http://www.wayfaring.info/2009/09/15/eisriesenwelt-caves/
  • http://www.dolomitenhof.at/en/activities/excursions-sights.html
  • http://visitdestinations.com/eisriesenwelt.html

วันพฤหัสบดีที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2555

ปากกาลูกลื่น

ปากกาลูกลื่น

ปากกา ในยุคแรกปากกาคอแร้ง และต่อมาก็เป็นปากกาหมึกซึมนั้นมีปัญหาสำคัญคือ ต้องคอยเติมหมึกบ่อยๆ หมึกไหลเยิ้ม และปากกาลูกลื่น ก็คือคำตอบที่เข้ามาแก้ปัญหาเหล่านี้ ทำให้มันเป็น ปากกา ที่ได้รับความนิยมทุกสุดในปัจจุบัน และ บุคคลที่ควรได้รับการยกย่องว่าเป็น ผู้คิดค้น พัฒนาจนสามารถนำมาใช้ได้ในเชิงพาณิชย์ก็คือ ลาซาโล บิโร(László Bíró)

รายละเอียด

  • เชื่อหรือไม่ว่า กาลิเลโอ เองก็เคยออกแบบปากกาที่คล้ายปากกาลูกลื่น มาแล้วตั้งแต่ ศตวรรษที่ 17
  • ผู้ที่ทำการจดสิทธิบัตร ปากกาลูกลื่น คนแรกของโลกคือ นาย John Loud ที่โฆษณาว่าปากกาของเขานั้นสามารถ เขียนบนหนัง(Leather)ได้ แต่มันก็เหมาะสมสำหรับเขียนบนพื้นผิวที่หยาบเท่านั้น และไม่เหมาะสมจะนำมาใช้เขียนบนพื้นผิวเรียบ เช่น กระดาษ มันจึงแทบไม่มีประโยชน์ในเชิงพาณิชย์เลย
  • ในช่วงปี 1904 - 1946 มีผู้คิดประดิษฐปากกาลูกลื่น(ปากกาที่มีลูกเหล็กกลม เป็นตัวควบคุมการไหลของหมึก)มากมาย หลายค่าย แต่มันยังคงประสบปัญหา คือ ลูกเหล็กแน่นไปหมึกไม่ไหล ลูกเหล็กหลวมไปหมึกไหลเยิ้ม จึงยังไม่มีปากกาลูกลื่นของผู้ใดประสบความสำเร็จอย่างแท้จริงเชิงพาณิชย์
  • ต่อมานายลาซาโล บิโร(László Bíró) นักหนังสือพิมพ์ชาวฮังกาเรี่ยน ที่รู้สึกเซ็งจิตอย่างมาก กับ ปากกาหมึกซึมแบบเดิมๆ ที่มักจะคอยหมั่นเติมหมึกบ่อยๆ ต้องคอยทำความสะอาดจากหมึกที่ไหลเยิ้มไปหมด กระดาษที่ถูกขูดขาดจากปลายปากกาที่แหลม
  • แล้ววันหนึ่งเขาก็เห็นว่า หมึกที่ใช้พิมพ์หนังสือพิมพ์นั้นแห้งเร็ว ไม่ทำกระดาษย่น มันน่าจะสามารถนำมาใช้ทำหมึกของปากกาได้
  • บิโร จึงคิดจะประดิษฐ์ปากกาที่ใช้หมึกที่ใช้พิมพ์หนังสือพิมพ์ แต่เมื่อนำไปใช้มันกับก่อปัญหาหมึกนั้นหนืดไปมันไม่สามารถไหลออกจากปลายปากกา
  • บิโร ได้รับความช่วยเหลือจากพี่ชาย นามว่า George ที่เป็นนักเคมี ช่วยในการออกแบบ ปากกา ชนิดใหม่ ที่มีลูกเหล็กกลมขนาดเล็ก ติดอยู่ในช่องที่ปลายปากกา ที่สามารถหมุนได้อย่างอิสระทุกทิศทางเมื่อปลายปากกาเขียนผ่านกระดาษ
  • ในปี 1940 บิโร และพี่ได้หนีออกจากฮังการีเนื่องจากกลัวการกวาดล้างของทหารนาซี ไปยังอาร์เจนติน่า และได้จดสิทธิบัตรเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 1940 ที่อาร์เจนติน่า และนั้นเป็นความผิดพลาดอย่างมากของ บิโร ที่เราไม่ทำการจดสิทธิบัตรที่ อเมริกา
  • เมื่อนักธุรกิจชาวอเมริกัน นามว่า Milton Reynolds (ชื่อเริ่มคุ้นหูแล้วซิ) เขาเห็นปากกาลูกลื่นของ บิโร สามารถใช้งานได้อย่างยอดเยี่ยม เขาจึงได้ซึ้อมันกลับไปยังอเมริกาเพื่อเป็นตัวอย่าง และจัดตั้งบริษัท Reynolds International Pen ทำการขโมยผลงานสร้างสรรค์ของ บิโร มาเป็นของตนเอง ผลิตปากกาออกขายในปี 1945 ที่นิวยอร์ค ที่ห้าง Gimbels ด้วยราคาสูงถึงแท่งละ 9.75 เหรียญสหรัฐ จนร่ำรวย
ข้อมูลอ้างอิง
http://en.wikipedia.org/wiki/File:Ballpointpentip_lessnoise.jpg

วันอาทิตย์ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2555

หาดทราย ประหลาด

 
หาดทราย ประหลาด

มันจะไม่แปลก ไม่ประหลาดได้อย่างไร ในเมื่อหาดทรายแห่งนี้ มีเม็ดทรายที่มีรูปร่างเป็น ดาว โกหกหรือเปล่าดูรูป ก็ ทรายธรรมดาๆ ไม่เชื่อต้องติดตามต่อครับ

กำเนิด หาดทรายดาว

  • หาดทราย แห่งนี้เมื่อมองผ่านมันก็ดูเป็นหาดทรายธรรมดาๆ เท่านั้น
  • แต่เมื่อ หยิบเม็ดทรายมาส่องด้วยแว่นขยาย จะ พบว่าเม็ดทรายเหล่านั้นมีลักษณะเป็นแฉก คล้าย ดาว
  • โดยธรรมชาติแล้วทรายตามชายหาดนั้นมักจะมีลักษณะไม่ค่อยมีเหลี่ยมคม ไม่เหมือนทรายน้ำจืด เนื่องจาก คลื่นลมที่ซัดพาเม็ดทรายขึ้นลงตามกระแสน้ำ จะขัดสีเม็ดทรายให้หมดเหลี่ยมคม
  • แต่หาดทรายอันเงียบสงบ ที่ Hoshizuma เมืองโอกินาวา( Okinawa ) ประเทศญี่ปุ่น แห่งนี้ กับมีเม็ดทรายเป็นรูปดาว โดยมีทั้งตำนาน และ ข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์ ดังนี้
  • ตำนานกล่าวไว้ไว่า เม็ดทรายรูปดาวเหล่านี้คือ ลูกหลาน ของ กลุ่มดาวกางเขนใต้ ( Southern Cross ) กับ ดาวเหนือ ( North Star) ดาวน้อยเหล่านี้ถือกำเนิดในทะเลนอกชายฝั่งโอกินาวา แล้วถูกงูยักษ์ฆ่าตาย เหลือทิ้งไว้เพียงเศษกระดูรูปดาวที่ถูกพัดขึ้นมาเกยตื้นมากมายบนหาด
  • ความจริงทางวิทยาศาสตร์ พวมมันเป็นซาก ของ โปรโตซัว(Protozoa สิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว มีลักษณะคล้ายสัตว์ เคลื่อนที่ได้) ในตระกูล Foraminifera ที่อาศัยอยู่ตามพื้นทะเล โดยทั่วไปพวกมันมีโครงสร้างคล้ายหอย ที่เห็นเป็นแฉกก็คือระยางที่ใช้ในการเคลื่อนที่ ใช้ในการเก็บอาหารกิน เมื่อพวกมันตายส่วนที่เป็น แคลเซียม คาร์บอเนท( Calcium Carbonate ) ที่เหลือจะถูกพัดพาขึ้นทับถมบนชายหาด แห่งนี้
  • สาเหตุที่พบมันมากในบริเวณนี้ก็เนื่องจากพวกมันชอบอาศัยอยู่ในบริเวณน้ำตื้น ในบริเวณนี้

ซูมอีกนิด เริ่มเป็นดาวแล้ว


ซูมสุดๆไปเลย

ข้อมูลอ้างอิง หาดทรายดาว

วันอังคารที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2555

จ้าวแห่งการพรางตัว

จ้าวแห่งการพรางตัว


การพรางตัว เป็นทั้งวิธีในการเอาชีวิตรอดสำหรับสัตว์ที่อ่อนแอ ทั้งเป็นยังเป็นวิธีล่าที่ชาญฉลาดของนักล่าบางประเภท เราลองไปดูว่าธรรมชาติ ได้สร้างสรรค์ จ้าวแห่งการพรางตัวไว้อย่าง ตื่นตลึง

การพรางตัวเพื่อ เอาชีวิตรอด และใช้ในการล่า


ผีเสื้อใบไม้ตาย (dead-leaf butterfly) หากมันไปเกาะอยู่ที่พื้นที่มีใบไม้แห้ง คงยากยิ่งที่จะมีนักล่าตัวใดพบเห็นพวกมัน


ตั๊กแตนPhyllium giganteum นี้ก็เป็นอีกหนึ่งการพรางตัวที่เหมือนใบไม้สด ทั้งยังมีรอยด่าง รอยยักของใบไม้ ที่ยิ่งเพิ่มความเหมือนยิ่งขึ้นไปอีก


กบleaf mimic frog ก็พรางตัวได้เหมือนใบไม้ที่ตายแล้วตามพื้นดิน


ปลา Amazon leaf fish (ชื่อวิทยาศาสตร์ Monocirrhus polyacanthus) ก็เป็นอีกหนึ่งใน จ้าวแห่งการพรางตัว แถมยังมีท่าทางในการว่ายน้ำเหมือนใบไม้ที่ลอยตามกระแสน้ำไปมา โดยการว่ายหัวทิ่งลงพื้น และมักจะว่ายน้ำไปทางด้านข้าง เห็นอย่างนี้พวกมันเป็นปลานักล่า นะครับ


นกศรีลังกาปากกบ (Sri Lankan frogmouth ชื่อวิทยาศาสตร์ Batrachostomus moniliger ) ก็มีสีขนคล้ายกิ่งไม้


มังกรทะเลใบไม้ (Leafy Sea Dragon) พวกมันเป็นปลาทะเล ที่เป็นญาติใกล้ชิดกับ ม้าน้ำ ที่มีรูปร่างหน้าตาคล้าย สาหร่ายทะเล
<< อ่านบทความ เกี่ยวกับ มังกรทะเลใบไม้ คลิกที่นี้ >>


จิ้งจกหางใบไม้ ( Leaf-tailed gecko หรือชื่อวิทยาศาสตร์ Uroplatus ) เป็นจิ้งจกที่พบได้ที่เกาะ Madagascar


หมาจิ้งจอกหิมะ ( Snow fox ) ก็เป็นจ้าวแห่งการพรางตัว เนื่องจากเมื่อถึงฤดูหนาว พวกมันจะผลัดขน จากสีดำสลับคลีม เป็นสีขาวหิมะ (รูปขวา เป็นขนในฤดูร้อน ในปากจะคาบ ตัว lemming กลับไปให้ลูกที่รอคอยอยู่ที่รัง


หมึกกระดอง (Cuttlefish) ยิ่งมีวิวัฒนาการสูงขึ้นไปอีกขั้น กล่าวคือ ที่ผิวหนังมีเซลสี ที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตาม สภาพภูมิประเทศ และยังสามารถใช้ในการสื่อสาร ระหว่างหมึกได้อีกต่างหาก

คน(มนุษย์) ก็เป็น จ้างแห่งการพรางตัว
ถึงมนุษย์จะไม่มี ผิวหนัง หรือ ขนที่เหมือนกับสภาพแวดล้อม แต่มนุษย์ ก็มีสมอง และสองมือที่จะสรรค์สร้าง การพรางตัวได้ไม่น้อยหน้ากว่า สัตว์ชนิดใดๆ


ผลงาน body paint ของ Emma (Jane) Hack ที่วาดลวดรายของนางแบบได้กลมกลืนกับพื้นหลังจากน่า อัศจรรย์ใจอย่างยิ่ง


ชุดพราง ขั้นเทพผลงานของ Desiree Palmen


แต่ชุดนี้ เป็นหนึ่งในสุดยอดเทคโนโลยี่ ของ นักวิจัยชาวญี่ปุ่น แห่งมหาวิทยาลัยโตเกียว ที่ประดิษฐ์ชุดล่องหน แต่เทคโนโลยี่นี้ยังต้อง การที่จะมองภาพเหมือนผู้สวมชุดล่องหนได้นั้นยังต้องมองผ่านหน้าจอพิเศษ ยังไม่สามารถมองเห็นภาพดังกล่าวโดยตรง


หลัการการทำงานของเสื้อคลุมล่องหน คือ ตั้งกล้องบันทึกภาพด้านหลังผู้สวมชุดล่องหน ภาพพื้นหลังจะถูกส่งผ่านคอมพิวเตอร์ นำฉายขึ้นสู่ฉากใสที่ให้ผู้สังเกตการณ์มองผ่าน ซึ่งจะมองเห็นภาพซ้อนของพื้นหลังบนตัวของผู้สวมใส่ชุดล่องหน ทำให้เกิดภาพลวงตาเสมือนผู้นั้นล่องหน จนมองทะลุผ่านได้

ข้อมูลอ้างอิง จ้างแห่งการพรางตัว
  • http://conservationreport.com/2008/11/08/can-you-see-me-animal-camouflage-leaf-mimics/
  • http://www.weirdworm.com/5-weird-birds/
  • http://www.arkive.org/sri-lankan-frogmouth/batrachostomus-moniliger/image-G12246.html
  • http://ngm.nationalgeographic.com/ngm/0410/feature4/zoom4.html
  • http://www.moillusions.com/2009/08/emma-hacks-camouflage-art.html

วันอังคารที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2555

ปรากฏการณ์ธรรมชาติ ลาวา สีคราม


Lava ลาวา คือ หินหลอมเหลว ที่ถูกปลดปล่อย หรือเคลื่อนสู่ผิวโลก ซึ่งธรรมดามันก็จะมีสีแดง แต่ ธรรมชาติทำให้เราประหลาดใจได้เสมอกับ ปรากฏการณ์ธรรมชาติ ลาวาสีคราม

รายละเอียด ปรากฏการณ์ธรรมชาติ ลาวา สีคราม

  • ภาพที่เห็นทั้งหมดในบทความนี้เป็นภาพจาก ภูเขาไฟ Kawah-Ijen ในประเทศอินโดนีเซีย ที่เกิดขึ้นในปี 2008 และ 2005
  • ปรากฏการณ์นี้จะสามารถเห็นได้เด่นชัดในคืนเดือนมืด
  • ปรากฏการณ์ธรรมชาติ นี้เกิดจากกำมะถันที่หลอมละลาย จากความร้อน จะปลดปล่อยเปลวเพลิงสีฟ้าสดออกมา ยิ่งในสภาพที่มีออกซิเจนสูงจะยิ่ง เห็นเปลวเพลิงสีฟ้าได้เด่นชัดขึ้น
คลังภาพ ปรากฏการณ์ธรรมชาติ ลาวา สีคราม

ลาวาสีคราม ที่ไหลลงมาตามลาดภูเขาไฟ Kawah-Ijen


เห็นเป็นสีครามสวยงามเช่นนี้ แต่พวกมันมีอุณหภูมิ ไม่ต่ำกว่า 444.6 องศาเซลเซียส


ช่างเป็นความงามที่น่าสะพึงยิ่งนัก


ยิ่งซูมเข้าไปดูไกล้ จะเห็นเป็นเปลวเพลิงสีฟ้าสดอยางชัดเจน


เมื่อลาวาสีคราม เย็นตัวลงก็จะกลายเป็น กำมะถันสีเหลืองสด กลิ่นฉุน ทำให้ ภูเขา Kawah-Ijen เป็นเหมืองกำมะถัน
ข้อมูลอ้างอิง ปรากฏการณ์ธรรมชาติ ลาวา สีคราม
  • http://www.dailymail.co.uk/sciencetech/article-1250148/Volcano-chaser-Martin-Rietze-braves-worlds-violent-eruptions-perfect-shots.html
  • http://www.tboeckel.de/EFSF/efsf_wv/indonesia_08/indonesia_08_e.htm

วันจันทร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2555

อัญมณี จาก ขยะ

อัญมณี จาก ขยะ

Sea glass ผลึกแ้ก้วสมุทร คือ อัญมณีแห่งความเสื่อมโทรม จากน้ำมือมนุษย์ มันอาจสวยงาม มันอาจแปลกประหลาด หากไม่ใช่ธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ ที่พยายามเยี่ยวยาตัวเอง เพราะจะรอมนุษย์คงหมดหวัง ธรรมชาติขอเพียงมนุษย์อย่างเรา ไม่ช่วยก็อย่างซ้ำเติมโลกนี้กันอีกเลย
รายละเอียดเกี่ยวกับ อัญมณี จาก ขยะ
  • อัญมณีขยะ นี้ปรากฏขึ้นบนชายหาดริมทะเล Fort Bragg ในเมือง Mendocino ในรัฐแคลิฟอร์เนีย(California) ประเทศสหรัฐอเมริกา
  • ชายหาดนี้ปกคลุมไปด้วย ก้อนแก้วขนาดเล็กมีลักษณะกลมมน ทั่วทั้งชายหาดแทนเม็ดทราย
  • ก้อนแก้ว เหล่านี้เกิดจากในอดีตในช่วงปี 1950 ถึง 1967 บริเวณดังกล่าวเป็นที่ดินของบริษัทกำจัดขยะ และมันถูกใช้เป็นที่ทิ้งขยะในทะเลอย่างผิดกฎหมาย
  • เศษขยะที่เป็นเศษแก้ว ก็ถูกคลื่นซัด ขัดสีกับท้องทะเลจนเกิด อัญมณีขยะ ขึ้นมาเต็มชายหาด
  • ในปี 2003 ทางรัฐได้ซื้อหาดนี้ในราคา 2.48 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อใช้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว

หาดทรายที่เต็มไปด้วย ก้อนแก้วขนาดเล็ก ดุจดั่ง ปกคลุมไปด้วยอัญมณีทั่วทั้งหาด
ข้อมูลอ้างอิง อัญมณี จาก ขยะ (Sea Glass)
  • http://webecoist.com/2009/09/16/glass-beach-eco-nightmare-turned-eco-vacation-spot/

วันเสาร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2555

ปรากฏการณ์ธรรมชาติ ดอกไม้น้ำแข็ง



Ice Flowers เป็นอีก 1 ปรากฏการณ์ธรรมชาติ ที่สร้างความตกตลึงให้แก่ผู้พบเห็น เนื่องจากมันจะเกิดขึ้นบนทะเลที่กลายเป็นน้ำแข็ง และเกิดมีเกร็ดน้ำแข็งที่ก่อตัวขึ้นมาเป็น ช่อดอกไม้สีขาง กลีบบางผุดขึ้นมาเต็มพื้นน้ำแข็ง



สาเหตุ ของการเกิด ปรากฏการณ์ธรรมชาติดอกไม้น้ำแข็ง

  • ปรากฏการณ์ธรรมชาติ ดอกไม้น้ำแข็ง เป็นหนึ่งในรูปแบบของแผ่นน้ำแข็ง ที่พึ่งก่อตัวขึ้นใหม่
  • เมื่อไอน้ำอิ่มตัว ( Saturated Water Vapors ) ที่แทรกตัวขึ้นมาตามรอยแตกของแผ่นน้ำแข็ง
  • เมื่อไอน้ำอิ่มตัว สัมผัสกับอากาศเย็นจัดด้านบนก็จะเริ่มก่อตัวเป็นเกร็ดน้ำแข็ง
  • ส่วนเกลือบนที่อยู่บนผิวของเกร็ดน้ำแข็งก็จะเกิดการตกผลึก เป็นเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยบนผิวของเกร็ดน้ำแข็ง
  • ผลึกเกลือที่เกิดขึ้นจะเป็นเสมือนแกนให้ให้ไอน้ำอิ่มตัว ที่เหลือเกาะเป็นเกร็ดน้ำแข็งใหม่ขึ้นสลับไปมาจนซ้อนทับกันจนคล้าย กลีบดอกไม้


  • http://www.odditycentral.com/pics/ice-flowers.html

วันอังคารที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2555

ภาพลวงตา สิบสองบวกหนึ่งคน

ภาพลวงตา สิบสองบวกหนึ่งคน
12 + 1 ในภาพนี้มีคนอยู่กี่คน ถ้าตอบว่า 12 ลองดูข้างล่างต่อไปแล้วคุณจะประหลาดใจ



ลองทำการตัดภาพตามตำแหน่งดังรูปนี้ แล้วสลับที่กันดูจะเกิดอะไรขึ้น



หลังจากตัดภาพและสลับที่กัน แล้วนับคนในภาพอีกครั้งได้เท่าไร แล้วเท่าผมหรือเปล่า 12 + 1

  • http://www.moillusions.com/